Welcome to MNYTECHNIC & SUPPLY.

ที่อยู่ 300/15 หมู่ 7 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี 20160

Categories
Uncategorized

ติดตั้งแอร์จุดไหนของห้องนอน เย็นกำลังดีไม่มีภูมิแพ้

ติดตั้งแอร์จุดไหนของห้องนอน เย็นกำลังดีไม่มีภูมิแพ้

1. ไม่ควรติดตั้งแอร์บนศีรษะและปลายเตียง
ไม่ควรติดตั้งแอร์ในด้านหัวเตียงและปลายเตียง ข้อนี้สิ่งสำคัญมาก เพราะเป็นตำแหน่งที่ปล่อยลมออกมาปะทะร่างกายและศีรษะโดยตรง อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ สำหรับทิศทางลมจากเครื่องปรับอากาศที่สวนจากปลายเท้าขึ้นมาทางศีรษะ ลมเย็นจะพัดสวนเข้าจมูกตลอด หากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ทำความสะอาดนานๆ อากาศที่เป่าออกจากแอร์จะมีความชื้นและเชื้อโรคตามมาด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบหายใจทำงานผิดปกติ มีโอกาสเป็นหวัดเรื้อรัง เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่าย อีกทั้งการติดตั้งแอร์ไว้บนหัวเตียง จะทำให้ตอนนอนรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับอยู่ ส่งผลให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและยังผิดหลักฮวงจุ้ยด้วย

2. ไม่ควรติดตั้งแอร์เหนือประตู
ตำแหน่งเหนือประตูห้อง คือจุดที่ไม่ควรติดตั้งแอร์ เพราะการเปิด-ปิด ประตูแต่ละครั้งจะทำให้ความเย็นออกจากห้องนอนได้ง่าย อุณหภูมิใกล้ประตูไม่คงที่ ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศเย็นช้า ระบบเซ็นเซอร์ของเครื่องปรับอากาศทำงานหนักและกินไฟ

3. ตำแหน่งแอร์ ต้องไม่โดนแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง
เครื่องทำความเย็นทุกๆ ประเภท ไม่ควรติดตั้งในจุดที่โดนแสงแดดหรือมีเครื่องทำความร้อน โดยเฉพาะผนังบ้านทางทิศใต้และทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่รับแสงแดดเกือบตลอดทั้งวัน ไม่เพียงแค่ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ค่าไฟก็ขยับตามขึ้นด้วย หากบางห้องไม่สามารถเลี่ยงในการติดตั้งในทิศดังกล่าวได้ อาจเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศชนิดฝังฝ้าเพดานแทน

4. เลือกตำแหน่งที่กระจายลมได้ไกล
ห้องแต่ละห้องจะมีรูปร่างและขนาดต่างกัน วิธีการมองหาจุดติดตั้งแอร์มีหลักการใกล้เคียงกันคือ ติดตั้งมุมที่เครื่องปรับอากาศสามารถกระจายลมเย็นไปทั่วทั้งห้องได้ ไม่ติดตั้งในมุมอับ เพราะการกระจายความเย็นอาจทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เช่น ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตำแหน่งติดตั้งควรอยู่ในตำแหน่งผนังแนวยาว เพื่อให้ความเย็นที่ออกมากระจายไปทางซ้ายและขวาของห้องได้อย่างทั่วถึง

5. เลือกติดตั้งแอร์หรือติดตั้งเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งตั้งฉากกับเตียง
ตำแหน่งที่เหมาะสมกับการติดตั้งแอร์ในห้องนอนมากที่สุด คือ ผนังด้านที่ตั้งฉากกับเตียง ให้ทิศทางลมจากตัวเครื่องพัดขวางลำตัวในเวลานอน อาจติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้ตรงบริเวณกลางเตียงหรือขยับเยื้องค่อนไปทางปลายเตียงเล็กน้อย จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้หรือระบบทางเดินหายใจได้

Cr. https://www.thepalmhome.com/ติดตั้งแอร์จุดไหนของห้/

Categories
Uncategorized

แอร์เสียงดัง น้ำแข็งเกาะ ลมไม่ออก

แอร์เสียงดัง น้ำแข็งเกาะ ลมไม่ออก

วิธีการรับมือกับปัญหาแอร์มีน้ำแข็งเกาะด้วยตัวเอง

ปัญหาแอร์น้ำแข็งเกาะมักเกิดขึ้นที่บริเวณคอยล์เย็นของแอร์ โดยสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุนั้นมีวิธีการรับมือที่เหมาะสมแตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

– แอร์มีน้ำแข็งเกาะจากน้ำยาของแอร์เกิดการรั่วซึมออกมา สามารถรับมือได้จากการสังเกตปลายท่อที่อาจตันจากน้ำยาของแอร์ที่จับตัวกัน ถ้าหากลองใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดหรือระบายสิ่งที่อุดตันปลาท่อให้น้ำยาแอร์ที่ขังเกิดการระบายตัวออกมาได้สำเร็จก็จะช่วยทำให้แอร์กลับมาเย็นได้อีกครั้ง

– แอร์มีน้ำแข็งเกาะเกิดจากฝุ่นเกาะหนาที่บริเวณฝาพัดกรงกระรอก ถ้าหากฝุ่นมีปริมาณมากจนลมที่ระบายผ่านมีน้อยก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาแอร์มีน้ำแข็งเกาะขึ้นได้เช่นกัน ส่วนวิธีจัดการกับปัญหานี้ก็แสนง่าย เพียงทำความสะอาดฝุ่นให้มีปริมาณน้อยลงก็จะช่วยลดปัญหาแอร์มีน้ำแข็งเกาะได้เป็นอย่างดี

– แอร์มีน้ำแข็งเกาะเพราะน้ำยาแอร์มีน้อย ถ้าหากแอร์มีลมพัดออกมาแรงดีเป็นปกติแต่เกิดปัญหาน้ำแข็งเกาะขึ้น อาจเกิดขึ้นจากน้ำยาแอร์ที่มีน้อยจนเดินไป ทำให้คอยล์เย็นมีน้ำแข็งเกาะขึ้นได้เช่นกัน โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยการให้ช่างมาทำการเติมน้ำยาแอร์ให้ใหม่นั่นเอง

กรณีที่เลวร้ายที่สุดที่ทำให้เกิดปัญหาแอร์มีน้ำแข็งเกาะคือ “แอร์ตัน” ซึ่งจำเป็นที่จะต้องให้ช่างมาทำการตัดล้างแอร์ขนานใหญ่เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหา เพราะถ้าหากฝืนใช้งานต่อไปอาจทำให้ส่วนของตัวคอมเพรสเซอร์แอร์เกิดความเสียหายมากขึ้นในอนาคต

วิธีการรับมือกับแอร์เสียงดังด้วยตัวเอง

คงไม่มีใครอยากให้แอร์ในบ้าน โดยเฉพาะในห้องนอนของตัวเองส่งเสียงดังชวนน่ารำคาญอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อใช้แอร์ไปนานๆก็ยากนักที่จะหลีกหนีจากปัญหาแอร์เสียงดังไปได้ แต่ถ้าหากทราบสาเหตุที่นำไปสู่ปัญหาก็รับรองว่าคุณจะสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างเหมาะสมอย่างแน่นอน

– แอร์ส่งเสียงดังจากปัญหาใบพัดเสื่อมสภาพ บริเวณที่เป็นตลับลูกปืน หรือที่เรียกกันว่าแบริ่งมอเตอร์ มักเกิดขึ้นจากการที่จาระบีน้ำมันหล่อลื่นภายในแห้ง สามารถแก้ไขได้ด้วยการหยอดจาระบีเข้าไปใหม่ แต่ถ้าหากตลับลูกปืนชำรุดก็ต้องทำการเปลี่ยนใหม่ เพราะไม่อย่างนั้นต่อให้หยอดจาระบีเข้าไปเท่าไหร่ เสียงดังที่เกิดขึ้นก็จะไม่ลดลงเพราะจาระบีเกิดการแห้งตัวอย่างรวดเร็วนั่นเอง

– แอร์ส่งเสียงดังจากการสะสมของฝุ่น มักเกิดขึ้นจากการไม่ได้ทำการล้างแอร์เป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดการสะสมตัวของฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงสิ่งแปลกปลอมเช่น แมลง มด ที่เข้าไปทำรังอยู่ภายใน การแก้ปัญหาแอร์ส่งเสียงดังด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องหมั่นทำความสะอาดล้างแอร์บ่อยครั้ง

– แอร์ส่งเสียงดังจากการขันคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่แน่นสนิท หากสังเกตว่าเสียงดังไม่ได้มาจากแอร์ที่ถูกติดตั้งอยู่ภายในห้อง อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุดังกล่าวได้เช่นกัน ส่วนการแก้ไขปัญหาก็ไม่ยากเพียงแค่ทำการไขน็อตให้แน่นสนิทเพียงเท่านี้ก็ช่วยหยุดเสียงดังกวนใจได้แล้ว

วิธีรับมือแอร์ลมไม่ออก

– แอร์ลมไม่ออกจากใบพัดหมุนผิดทิศทาง โดยพื้นฐานแล้วการหมุนของใบพัดจะเป็นแบบดักลมเสมอ หากตัวปรับทิศทางทำงานผิดพลาดทำให้การหมุนไม่เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสมก็จะทำให้เกิดปัญหาแอร์ลมไม่ออก ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ไม้ยาวทำการเขี่ยใบพัดให้หมุนไปในทิศทางที่ถูกต้อง

– แอร์ลมไม่ออกจากฝุ่นที่จับตัวที่ตัวกรองอากาศ เป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับแอร์ที่ไม่ได้ทำการล้างทำความสะอาดเป็นเวลานาน จนทำให้มีฝุ่นเกาะหนักบังทิศทางการเป่าลมออกไม่เต็มที่ ทำให้เกิดปัญหาแอร์ลมไม่ออกขึ้น วิธีการแก้ปัญหานี้ง่ายมากเพียงแค่ทำการถอดตัวฟิลเตอร์แอร์ออกมาล้างทำความสะอาด และเช็ดให้แห้งเท่านั้น

– แอร์ลมไม่ออกจากคอล์ยร้อนนอกตัวบ้าน ที่ถูกทิ้งเอาไว้ไม่ได้ทำการล้างทำความสะอาดอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดสิ่งสกปรกจับตัวแน่นบริเวณใบพัดแอร์ ทำให้แอร์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องลม และความร้อนภายในห้องที่มากผิดปกติขึ้น ปัญหานี้สามารถป้องกันได้ด้วยการหมั่นล้างคอล์ยร้อนภายในนอกเป็นประจำทุกครั้งเมื่อมีช่างมาทำการล้างแอร์ภายในบ้านนั่นเอง

กรณีที่เลวร้ายที่สุดสาเหตุที่ทำให้แอร์ลมไม่ออกอาจมาจำกัดลมคอล์ยเย็น หรือมอร์เตอร์ชำรุดเสียหาย ในกรณีจำเป็นต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาทำการตรวจซ่อมอย่างเหมาะสม และห้ามเปิดใช้แอร์เครื่องนั้นอย่างเด็ดขาดจนกว่าช่างจะทำการตรวจสอบเสร็จสิ้น

เพียงแค่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาแอร์ลมไม่ออก แอร์ส่งเสียงดัง และแอร์มีน้ำแข็งเกาะได้อย่างถูกต้อง พร้อมกับวางวิธีการป้องกันอย่างเหมาะสมเสียตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อไม่ให้ปัญหาน้ำแข็งเกาะ ส่งเสียงดังและลมไม่ออกเกิดขึ้น เพียงเท่านี้รับรองว่านอกจากจะช่วยทำให้ภายในห้องของคุณเย็นสบายแล้ว ยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว

ที่มา : (https://worthen-life.com/air-broken/)

 

Cr. https://www.deepromair.com/article/12/แอร์เสียงดัง-น้ำแข็งเกาะ-ลมไม่ออก-รับมือได้ด้วยวิธีแสนง่ายดังต่อไปนี้

Categories
Uncategorized

การล้างแอร์บ้าน เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ แม้จ้างช่างมาก็ตาม

การล้างแอร์บ้าน เรื่องสำคัญที่ต้องรู้

การล้างแอร์เป็นสิ่งที่ทุกบ้านจำเป็นต้องทำ นอกจากจะเพื่อให้แอร์สะอาด ไม่มีสิ่งอุดตันแล้ว ยังทำให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยาวนานขึ้นอีกด้วย แต่คำถามก็คือ ต้องล้างแอร์แบบไหนถึงจะดีล่ะ?

หลายคนอาจจะคิดว่าการล้างแอร์นั้นจำเป็นต้องจ้างช่างมาทำให้ทุกครั้ง ซึ่งจริงๆแล้วการล้างแอร์นั้นสามารถทำได้หลายวิธี รวมถึงยังมีบางวิธีที่เราสามารถทำเองได้อีกด้วย แต่ระดับความสะอาดและระยะเวลาก็จะต่างกันออกไป

istock-1709499829

การล้างแอร์แบ่งออกเป็นหลายวิธี ซึ่งวิธีทั่วไปที่ช่างนิยมทำกันก็คือ การล้างด้วยน้ำแรงดันสูง เป็นการใช้ปั้มน้ำแรงดันสูงฉีดล้างทำความสะอาดตัวคอยล์เย็นด้านใน เพื่อเป็นการกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะอยู่ตามช่องระบายลมและแผงรังผึ้งแอร์ รวมถึงการล้างฟิลเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแอร์ที่สามารถถอดออกมาล้างได้ และทำการเป่าหรือทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นก็ทำการล้างทำความสะอาดคอนเดนเซอร์ตัวนอกที่อาจจะมีฝุ่นจับอยู่ตามใบพัด เพียงเท่านี้ก็จะทำให้แอร์สะอาดหมดจด และไม่มีเสียงดังรบกวนอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้แนะนำให้ทำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง

แต่ทั้งนี้เราสามารถดูได้จากการทำงานของแอร์ว่าติดขัดหรือมีฝุ่นเกาะมากน้อยแค่ไหนก็ได้เช่นกัน เนื่องจากการใช้งานและสถานที่ติดตั้งแอร์ของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน หากแอร์เรามีฝุ่นเกาะจำนวนมากอย่างเห็นได้ชัด และปล่อยความเย็นได้น้อยลง เราก็อาจจะต้องจ้างช่างมาล้างแอร์ให้เร็วขึ้นก็เป็นได้

หากรู้สึกไม่อยากจ้างช่างมาล้างแอร์บ่อย ๆ ทุกครั้งที่แอร์ไม่เย็น แล้วเราสามารถล้างแอร์เองได้หรือไม่นั้น คำตอบคือได้ครับ 

 
Advertisement

การถอดฟิลเตอร์ / แผ่นกรองฝุ่นออกมาทำความสะอาด

เราสามารถที่จะถอดฟิลเตอร์แอร์ หรือแผ่นกรองฝุ่นออกมาทำการล้างทำความสะอาด ตากไว้ให้แห้ง แล้วนำกลับมาติดใหม่ได้ การทำแบบนั้นจะทำให้ฝุ่นที่เกาะขวางทางเดินของลมหลุดออกไป แอร์ก็จะสามารถปล่อยความเย็นออกมาได้อย่างเต็มที่

การใช้สเปรย์ล้างคอยล์เย็น

หรืออีกวิธีหนึ่งคือการซื้อสเปรย์ล้างคอยล์เย็นที่เป็นโฟมมาฉีดพ่นให้ทั่ว และพรมน้ำสะอาดตามจนกว่าฟองซึมเข้าไปข้างในได้หมด แอร์ของเราก็จะสะอาดเข้าไปถือข้างในและปล่อยลมออกมาได้เย็นขึ้น 

การถอดอุปกรณ์และชิ้นส่วนที่ถอดได้มาล้าง

แต่ทั้งสองวิธีข้างต้นเป็นเพียงการทำความสะอาดแอร์ที่ได้ผลแค่ชั่วคราว เพื่อยืดระยะเวลาในการล้างแอร์ออกไปเท่านั้น เพราะถึงแม้จะมีวิธีที่สามารถถอดอุปกรณ์ต่างๆของแอร์ออกมาล้างทำความสะอาดด้วยตัวเองได้ แต่วิธีนี้ก็จำเป็นต้องมีความชำนาญและความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานของแอร์พอสมควร มิเช่นนั้นอาจจะทำให้ชิ้นส่วนบางอย่างเสียหายได้เช่นกัน

istock-1707455614

สรุปก็คือ เราสามารถทำความสะอาดแอร์ด้วยตัวเองได้ แต่ระยะเวลาและระดับของความสะอาดจากการทำแต่ละวิธีจะไม่เท่ากับการล้างแอร์ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูงที่จะเป็นการล้างแอร์แบบทั่วถึงทุกซอกทุกมุม จึงทำให้แอร์มีประสิทธิภาพที่ดียาวนานขึ้น และเราจะไม่ต้องหายใจเอาฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจลอยมากับลมแอร์เข้าสู่ร่างกายอีกด้วย

Cr. https://www.sanook.com/hitech/1589935/

Categories
Uncategorized

7 วิธีเปิดแอร์ในหน้าร้อน ให้ค่าไฟไม่พุ่งสูง

7 วิธีเปิดแอร์ในหน้าร้อน ให้ค่าไฟไม่พุ่งสูง

บ้านเราบทจะร้อน ก็ร้อนมากเลยนะคะ หน้าร้อนนี้หลาย ๆ บ้านก็คงเปิดเครื่องปรับอากาศกันแทบตลอดทั้งวัน ให้อากาศในบ้านเย็นได้บ้าง เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้รู้สึกไม่สบายตัว

ยิ่งบ้านไหนมีลูกเล็กก็ถึงกับงอแงได้เลย และเพื่อประหยัดไฟ ให้ค่าไฟในช่วงหน้าร้อนไม่พุ่งกระฉูดกันมาก เราเลยมีคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยประหยัดพลังงานในหน้าร้อน และประหยัดเงินในกระเป๋ากันมาบอกต่อค่ะ ลองทำตามกันได้เลย

1. เพิ่มอุณหภูมิแอร์ตอนกลางคืน

ตอนกลางคืนไม่มีแดด อุณหภูมิจะเย็นสบายกว่าในช่วงกลางวันหน่อย เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ให้ปรับอุณหภูมิของแอร์ขึ้นไปสัก 1 องศา (จาก 25 องศา เป็น 26 องศา) ในช่วงที่นอนหลับ ก็จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟในเดือนนั้นสูงถึง 10 เปอร์เซ็นต์

4790 2

2. ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท

ก่อนเปิดแอร์ทุกครั้ง ควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เพราะหากปล่อยให้อากาศภายนอกไหลเข้ามา ก็อาจทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น แถมยังเป็นการเพิ่มการใช้พลังงานอีกด้วย

3. ใช้วิธีเปิดพัดลมร่วมกับการเปิดแอร์

เพื่อให้ความเย็นกระจายไปทั่วห้อง คือการเปิดพัดลมช่วยในระหว่างเปิดแอร์ ซึ่งจะทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก และยังสามารถปรับอุณหภูมิแอร์ให้สูงขึ้นไปที่ 26 องศาเซลเซียสได้ ช่วยลดค่าไฟลงไปได้เท่าตัวเลย

4. หลีกเลี่ยงการนำความชื้นเข้าห้อง

ปกติแล้วแอร์จะใช้พลังงานในการทำความเย็นอยู่ที่ 30% ส่วนอีก 70% เป็นพลังงานที่ใช้กำจัดความชื้น ทำให้สภาพอากาศภายในห้องแห้ง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการนำสิ่งของที่ก่อให้เกิดความชื้นเข้ามาในห้อง เช่น ต้นไม้หรือการตากผ้า เป็นต้น เพราะแอร์จะทำงานหนักมาก

4790 3

5. ควบคุมการใช้ชั่วโมงแอร์ให้เหมาะสม

หันมาควบคุมชั่วโมงแอร์ในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะการปิดแอร์ที่เราสามารถตั้งเวลาเอาไว้ได้ให้ปิดในตอนตี 5 ในระหว่างนอนก็เปิดพัดลมเอาไว้ด้วย จะช่วยให้อากาศในห้องเย็นสบายจนตื่นเช้าได้พอดี

6. ปิดไฟในห้องแล้วรับแสงจากหน้าต่างแทน

ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ จะความร้อนออกมา ส่งผลให้ห้องในหน้าร้อน มีอากาศร้อนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นในระหว่างวันที่เปิดแอร์ให้ปิดหลอดไฟฟ้า และใช้แสงสว่างจากนอกหน้าต่างเข้ามาแทน จะช่วยลดอุณหภูมิในบ้านให้เย็นลง

7. ล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ

เพื่อเป็นการใช้งานแอร์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนเข้าสู่หน้าร้อนควรทำความสะอาดแอร์ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเสื่อมสภาพการใช้งาน ทำให้แอร์เย็นฉ่ำได้มากขึ้น ที่สำคัญแอร์เย็นแต่ไม่ทำงานหนัก ประหยัดค่าไฟไปได้อีก



ขอบคุณข้อมูลจาก : Seekster

Cr. https://www.rakluke.com/family-lifestyle-all/news-update/item/7-3.html