Welcome to MNYTECHNIC & SUPPLY.

ที่อยู่ 300/15 หมู่ 7 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี 20160

Categories
Uncategorized

8 วิธีเปิดแอร์สู้หน้าร้อน แต่ค่าไฟไม่กระฉูด

8 วิธีเปิดแอร์สู้หน้าร้อน แต่ค่าไฟไม่กระฉูด

1. ล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย

        เคยสังเกตหรือไม่ว่า แม้จะลดอุณหภูมิแอร์แล้วแต่ก็ยังไม่รู้สึกเย็น นั่นเป็นเพราะว่ามีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่เข้าไปในแอร์เป็นจำนวนมากนั่นเอง นอกจากลดอุณหภูมิยังไงแอร์ก็ไม่เย็น แอร์ยังทำงานหนักขึ้นและกินไฟมากอีกด้วย ดังนั้น การล้างแอร์แบบจัดเต็ม คือการถอดล้างโดยช่างผู้ชำนาญงานเพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดไฟฟ้าได้ด้วย

2. เปิดพัดลมพร้อมกับเปิดแอร์

        การเปิดพัดลมไล่ความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์สักพัก แล้วค่อยเปิดพัดลมพร้อมกับเปิดแอร์ โดยการเพิ่มอุณหภูมิแอร์ไปที่ 27-28 องศาก็จะช่วยลดอุณหภูมิลงมาได้อีก2-3องศาเพียงเท่านี้อากาศในบ้านก็จะเย็นสบายกำลังดีแถมไม่เปลืองไฟด้วย

3. ตั้งเวลาปิดแอร์

        ต้องบอกว่า“การตั้งเวลาปิดแอร์”นั้นถือเป็นควบคุมการใช้ชั่วโมงแอร์ ให้เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ห้องของคุณยังคงเย็นฉ่ำอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งนี้การตั้งเวลาปิดแอร์นั้นควรทำในช่วงเวลากลางคืนโดยตั้งเวลาปิดแอร์ในระหว่างนอนหลับอยู่ที่ช่วงประมาณตี 2-3และก่อนนอนก็ควรเปิดพัดลมทิ้งไว้พร้อมกัน ก็จะช่วยให้อากาศคงความเย็นสบายตลอดคืนจะได้ไม่ตื่นกลางดึกเพราะต้องลุกขึ้นมาปิดแอร์

4. ไม่นำความชื้นเข้าห้อง

        โดยปกติแอร์จะใช้พลังงานในการทำความเย็นอยู่ที่ 30% ส่วนอีก 70% เป็นพลังงานที่ใช้จำกัดความชื้น จึงช่วยให้สภาพอากาศภายในห้องแห้งนั่นเอง ฉะนั้น ควรหลีกเลี่ยงการนำสิ่งของที่ก่อให้เกิดความชื้นเข้ามาในห้อง อาทิ ต้นไม้หรือการตากผ้าภายในห้อง เพราะแอร์จะทำงานหนักขึ้น

5. เลี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ

        หลีกเลี่ยงการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามาในห้องแอร์ อาทิ ตู้เย็น หม้อต้มน้ำร้อน เครื่องชงกาแฟ หรือเตารีด เพราะทำให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้น จนทำให้แอร์ต้องทำงานหนักเกินไป

6. ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท

        ก่อนเปิดแอร์ทุกครั้ง ควรเช็คให้ดีก่อนว่า คุณปิดประตูหรือหน้าต่างเรียบร้อยหรือยัง เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศร้อนชื้นจากภายนอกเข้ามา ทำให้เครื่องต้องทำงานหนักขึ้น แถมยังเป็นการเพิ่มการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองด้วย

7. ปิดไฟแล้วเปิดผ้าม่านแทน

        นอกจากแสงแดดที่ทำให้เกิดความร้อนในบ้านแล้ว แสงไฟจากหลอดไฟ ก็มีส่วนที่ทำให้บ้านร้อนเหมือนกัน ฉะนั้น เพื่อลดอุณหภูมิในบ้านช่วงเวลากลางวัน จึงควนปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น แล้วเปิดผ้าม่านรับแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาทดแทน เพียงเท่านี้บ้านของคุณก็สว่างขึ้น และอากาศร้อนน้อยลงไปด้วย

8. ควรปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง

        การปิดแอร์ก่อนออกจากห้องอย่างน้อย 30 นาที – 1 ชั่วโมง นอกจากช่วยประหยัดไฟ คุณก็ยังให้ความรู้สึกเย็นสบาย เพราะยังมีความเย็นหลงเหลืออยู่นั่นเอง

“และนี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้แอร์บ้านเย็นสบาย แถมประหยัดไฟได้อย่างคุ้มค่า”

Cr. https://elib.life.ac.th/8-วิธีเปิดแอร์สู้หน้าร้อ/

Categories
Uncategorized

จัดบ้านหน้าร้อนแบบไหนช่วยลดภาระเครื่องปรับอากาศ

จัดบ้านหน้าร้อนแบบไหนช่วยลดภาระเครื่องปรับอากาศ

บ้านเราถือได้ว่าเป็นเมืองร้อน ถึงแม้จะมีฤดูฝน ฤดูหนาวตามกฎธรรมชาติ แต่อากาศบ้านเราก็ยังร้อนอยู่ดีแทบจะไม่แตกต่างกันในแต่ละฤดู ด้วยเพราะเป็นเมืองร้อน การจะทำให้บ้านเย็นคงเป็นเรื่องที่ยากเอาการ บวกกับช่วงนี้เรากำลังประสบปัญหาไวรัส Covid-19 ทำให้หลายองค์กรมีประกาศให้ทำงานที่บ้าน (Work from Home) ซึ่งแน่นอนว่าเราอาจต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น

เพราะเมื่อเราต้อง Work from Home ทำให้มีการใช้เครื่องปรับอากาศกันอย่างหนักมากขึ้น ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายมาช่วยในเรื่องการคืนเงินประกันไฟฟ้าแล้วก็จริง แต่ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นอื่นๆ นอกเหนือจากเครื่องปรับอากาศที่ต้องเปิดใช้งานตลอดทั้งวัน หนึ่งในนั้นคือคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร และโคมไฟ แล้วทำอย่างไรจะช่วยลดความร้อนในบ้าน และประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จึงขอชวนทุกท่านมาจัดบ้าน จัดห้องใหม่เพื่อช่วยประหยัดแอร์ที่เหมาะกับช่วงหน้าร้อนและให้คุณพร้อม Work from Home ใครอยากบ้านเย็นทำได้ง่ายๆ ดังนี้ค่ะ

จัดแบบไหนช่วยลดภาระเครื่องปรับอากาศ

  1. เริ่มจากล้างแอร์ก่อน

เมื่อเครื่องปรับอากาศผ่านการใช้งานไปนานๆ ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกจึงสะสมอยู่มาก ทำให้ความเย็นสู้กับอุณหภูมิภายนอกที่ร้อนอบอ้าวได้ไม่เต็มที่ แอร์จึงทำงานหนักมากขึ้นและกินไฟมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากให้ช่างแอร์มาล้างแอร์แล้ว วิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองคือถอดแผ่นกรองอากาศออกมาทำความสะอาดเป็นประจำ

  1. ป้องกันแสงแดดเข้ามาในห้อง

ติดผ้าม่านหรือบานเกล็ด ยิ่งเป็นผ้าม่านที่สามารถกันความร้อนได้เป็นพิเศษยิ่งดี เพื่อป้องกันแสงแดดและความร้อนไม่ให้เข้ามามากเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเปิดรับแสงแดดในบางครั้งด้วยในช่วงเวลาเช้าหรือเย็น เมื่อเปิดม่านแล้วแนะนำให้ปิดไฟ เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนในห้องมากเกินไป เท่านี้บ้านก็เย็นขึ้นแล้ว

  1. ล็อกพื้นที่เปิดแอร์

เลือกเปิดแอร์ในห้องที่ใช้งานเท่านั้น โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ต้อง Work from Home แน่นอนว่าห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นจะถูกใช้เป็นพื้นที่ในการทำงาน ซึ่งห้องเหล่านั้นควรจะมีประตูปิด เพื่อไม่ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศลอดผ่านช่องประตูต่างๆ ออกไปข้างนอกได้ ควรตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมคงที่ที่ 25 องศา นอกจากช่วยให้เแอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ความเย็นสม่ำเสมอ ยังสามารถประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วย

  1. ใช้เครื่องปรับอาากาศเคลื่อนที่

เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ หรือที่เรามักจะชินกับคำว่าพัดลมไอน้ำ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะใช้ไฟน้อยกว่าเครื่องปรับอากาศเกินกว่า 50% ให้ความเย็นเฉพาะจุดในพื้นที่ที่ต้องการ โดยอาจเปิดใช้งานในช่วงเช้าหรือเย็นที่อากาศไม่ร้อนมากนัก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดภาระไม่ให้แอร์ทำงานหนัก และประหยัดค่าไฟฟ้าได้

จัดแบบไหนช่วยลดภาระเครื่องปรับอากาศ

จัดแบบไหนช่วยลดภาระเครื่องปรับอากาศ

จัดแบบไหนช่วยลดภาระเครื่องปรับอากาศ

สุดท้ายแล้วต่อให้อากาศข้างนอกจะร้อนแค่ไหน บ้านเราก็จะเป็นบ้านเย็นอยู่เสมอ เพราะรู้วิธีจัดบ้านอย่างฉลาด ไม่ใช่แค่ทำให้บ้านเย็นเท่านั้นแต่ยังประหยัดค่าไฟอีกด้วย ด้วยความห่วงใยจาก แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

ขอบคุณภาพสวยๆ จากโครงการ บ้านชัยพฤกษ์ บางนา กม. 7 / คอนโดฯ The Key / คอนโดฯ The Room

Cr. https://www.lh.co.th/th/lh-living-concept/tips/arranging-the-house-in-summer-help-reduce-the-burden-of-air-conditioning

Categories
Uncategorized

ฤดูร้อนนี้ อากาศยิ่งร้อน แอร์ยิ่งกินไฟ จริงหรือไม่ ?

ฤดูร้อนนี้ อากาศยิ่งร้อน แอร์ยิ่งกินไฟ จริงหรือไม่ ?

ในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่าปกติ การเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า แอร์ ภายในอาคารหรือที่อยู่อาศัย ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งสิ่งที่ประชาชนต่างสงสัยและอยากรู้ คือ อากาศยิ่งร้อน แอร์ยิ่งกินไฟ จริงหรือไม่ ?

รศ.ดร. ประกอบ สุรวัฒนาวรรณ อาจารย์ประจำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาเครื่องกล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า การทดลองในต่างประเทศ พบว่า ยิ่งอากาศข้างนอกร้อนหรืออุณหภูมิสูง ก็จะยิ่งกินไฟขึ้น

แล้วในไทยหละ ยิ่งร้อนแอร์ยิ่งกินไฟ จริงไหม ?

รศ.ดร. ประกอบ ระบุว่า จากการทดลองร่วมกับ การไฟฟ้านครหลวง(MEA) ในการพิสูจน์ว่า หากอุณหภูมิภายนอกสูง จะทำให้แอร์กินไฟจริงหรือไม่ พบว่า ทุก ๆ 1 องศาที่อากาศข้างนอกร้อนขึ้น แอร์จะกินไฟเพิ่มขึ้นมากกว่า 3% จากไฟปกติที่ใช้ ซึ่งเมื่ออากาศร้อน ตัวแอร์เองก็ต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการให้ความเย็นตามความเย็นที่เราตั้งไว้

“ทำไมเปิดแอร์เท่าเดิม แต่พออากาศร้อนขึ้น ค่าไฟเลยสูงขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่า ยิ่งอากาศร้อน แอร์ก็ยิ่งกินไฟมากขึ้นเพื่อให้ห้องเย็นเท่าเดิม”

อากาศร้อนไม่ใช่แค่แอร์ที่กินไฟเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ไม่ใช่แค่แอร์เท่านั้นที่เมื่ออากาศร้อนแล้วจะกินไฟมากขึ้น ตู้เย็นก็เช่นกัน เพราะเมื่ออากาศภายนอกร้อนขึ้น เครื่องทำความเย็นก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่อยู่ตลอดเวลา

แล้วจะประหยัดได้อย่างไร ?

นายจุมกฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง(MEA) ระบุว่า แอร์เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดเกือบ 70% ของค่าไฟ ดังนั้นมองว่าสิ่งที่เราจะสามารถประหยัดได้คือการลดอุณหภูมิแอร์ลงให้มาอยู่ที่ 26-27 องศา ก็จะช่วยประหยัดไฟได้ และ เมื่อลดอุณหภูมิแล้วก็สามารถเปิดพัดลมช่วยได้

“การล้างแอร์ด้วยตัวเอง โดยการล้างไส้กรอง อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และล้างใหญ่โดยช่างแอร์ อย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน ก็จะช่วยประหยัดพลังงานได้ ขณะที่ตู้เย็นหากจัดตู้เย็นให้เหมาะสม ไม่ใส่ของมากจนเกินไปก็จะสามารถลดการใช้พลังงานได้เช่นกัน”

นอกจากนี้การเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ให้ประหยัดพลังงาน เช่น เปลี่ยนจากหลอดไฟแบบขดลวด (หลอดไส้) เป็นหลอด LED , ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน และ ตรวจเช็กอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบรูณ์อยู่เสมอ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดหากชำรุดก็มีโอกาสจะเกิดการใช้ไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น

  • ข้อมูลอ้างอิง : โครงการวิจัยผลกระทบของอุณหภูมิแวดล้อมกับการใช้พลังงานไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ จัดทำโดย ฝ่ายวิจัยและพัฒนา การไฟฟ้านครหลวง และ โครงการวิจัยและพัฒนาความชำนาญด้านไฟฟ้ากำลัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

Cr. https://www.springnews.co.th/spring-life/822957

Categories
Uncategorized

4 เหตุผล ทำไมต้อง ล้างแอร์ ก่อนเข้าหน้าร้อน ?

4 เหตุผล ทำไมต้อง ล้างแอร์ ก่อนเข้าหน้าร้อน ?

เพราะหน้าร้อนค่าไฟเพิ่มขึ้น เป็นปัญหาที่คนไทยเจอเป็นประจำในทุกๆ ปี วันนี้เรามี 4 เหตุผลในการ ทำไมเราต้องล้างแอร์ก่อนหน้าร้อนมาฝาก อ่านต่อได้เลย

1. ลดการสะสมของฝุ่น

เพราะฝุ่นเป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ การล้างแอร์จะช่วยลดการสะสมของฝุ่น ภายในแอร์ และช่วยให้ลมแอร์แรงขึ้น

2. ไม่ต้องรอคิวช่างนาน

หน้าร้อนจะเป็นช่วงเวลาคิวทองของช่างล้างแอร์ การล้างแอร์ก่อนเข้าหน้าร้อนทำให้เราไม่ต้องรอคิวนาน

3. ช่วยประหยัดไฟ

ทุกๆ หน้าร้อน ค่า FT ไฟฟ้ามักจะเพิ่มขึ้น การล้างแอร์จะช่วยให้แอร์ทำงานหนักน้อยลง และช่วยลดค่าไฟได้อีกด้วย

4. ยืดอายุการใช้งาน

ยิ่งร้อน ยิ่งเปิดแอร์แรงขึ้น การล้างแอร์จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น เพราะไม่มีฝุ่นสะสม ลมแอร์ออกได้มากขึ้น

นี่คือสาเหตุว่าทำไมต้องล้างแอร์ โดยทั่วไปการล้างแอร์นั้น ปีละ 1-2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย หรือ 3-4 ครั้งต่อปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำงานของแอร์ให้มีอายุการทำงานยาวนานขึ้น และทำให้ผู้อยู่อาศัย มีสุขภาพดี เมื่อรู้แล้วว่า ในช่วงหน้าร้อนนี้อย่าลืมล้างแอร์

Cr. https://primo.co.th/บทความ/4-เหตุผล-ทำไมต้อง-ล้างแอร/

Categories
Uncategorized

5 เทคนิคเปิดแอร์เย็นใจ ประหยัดค่าไฟช่วงหน้าร้อน

5 เทคนิคเปิดแอร์เย็นใจ ประหยัดค่าไฟช่วงหน้าร้อน

ย่างเข้าหน้าร้อนทุกปี แอร์กลายเป็นสิ่งขาดไม่ได้ ออกนอกห้องแอร์ทีไรร้อนหูดับตับไหม้ เหงื่อไหลไคลย้อยพาลให้อารมณ์หงุดหงิดไม่เป็นอันทำงานทำการ แต่จะเปิดแอร์ให้เย็นกายสบายใจก็กลัวต้องตกใจกับตัวเลขบิลค่าไฟที่พุ่งสูงตามอุณหภูมิ แนะนำแนวทางว่าจะเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดเงินค่าไฟในช่วงหน้าร้อนนี้

 

save-electricity-bill2
 

 

ล้างแอร์

วิธีแรกที่สุดเลยคือการล้างแอร์ เพราะเมื่อแอร์มีการใช้งานไปนานๆ จะมีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปในตัวแอร์ และเมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็น ทำงานหนัก กินไฟมากกว่าเดิม และถ้าฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อน้ำแอร์ก็จะทำให้แอร์มีน้ำหยด การล้างแอร์เบื้องต้นด้วยการทำความสะอาดแผ่นกรองหยาบก็สามารถช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้ดีขึ้น หรือจะให้ช่างแอร์มาล้างให้สะอาดเอี่ยมอ่องก็จะทำให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

 

 

ลองตั้งอุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเล็กน้อย

มีความเข้าใจว่าอุณหภูมิแอร์ 25 องศาคืออุณหภูมิที่ประหยัดไฟที่สุดซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเล็กน้อย ความจริงแล้วระดับอุณหภูมิ 25 องศาที่คือระดับอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกสบายที่สุด จึงมีการแนะนำให้ตั้งระดับอุณหภูมิแอร์ที่ 25 องศา แต่ถ้าใครลองปรับเพิ่มอุณหภูมิเป็น 26-27 องศาแล้วยังรู้สึกสบายตัวอยู่ แนะนำให้ปรับอุณหภูมิขึ้นเล็กน้อย แอร์ก็จะทำงานน้อยลง ช่วยให้ประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟ ถ้าตอนกลางวันอากาศร้อนไม่ไหวจริงๆ อาจจะลองปรับอุณหภูมิเฉพาะในเวลากลางคืนที่อากาศร้อนน้อยกว่า แล้วตั้งเวลาปิดแอร์ 1 ชั่วโมงก่อนตื่นนอน  แค่นี้ก็ช่วยประหยัดค่าไฟได้แล้ว

 

 

 

หลีกเลี่ยงใช้แอร์ในห้องพื้นที่เปิด

การเปิดแอร์ในห้องที่เปิดโล่งอย่างห้องโถง ที่มีทางขึ้นบันได ทางเดินไปห้องอื่นๆ ไม่มีประตูกั้น นอกจากแอร์ไม่ค่อยเย็นแล้ว ยังทำให้แอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติและค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงควรเปิดแอร์ในห้องที่เป็นพื้นที่ปิด หรือถ้าจำเป็นต้องใช้แอร์ในห้องโถงจริงๆ ก็ควรติดตั้งฉากกั้นพื้นที่แบบเปิดปิด กั้นทางขึ้นบันได และทางเดินไปห้องอื่นๆ รวมถึงปิดหน้าต่าง ม่านให้เรียบร้อย ซึ่งม่านก็ช่วยลดอุณหภูมิจากแสงดอาทิตย์ภายนอก แอร์ทำงานน้อยลง ประหยัดพลังงานและค่าไฟแล้ว

 

 

 

ใช้พัดลมช่วย

การเปิดพัดลมไล่ความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์จะช่วยลดความอุณหภูมิความร้อนภายในห้อง ทำให้ตอนเปิดแอร์ไม่ต้องทำงานหนักมาก ยิ่งถ้าเปิดพัดลมช่วยในระหว่างที่เปิดแอร์จะช่วยให้ความเย็นจากแอร์กระจายไปทั่วห้อง และถึงแม้จะปรับอุณหภูมิเพิ่มเป็น 26-27 องศา (ตามข้อ 2) การเปิดพัดลมช่วยจะทำให้แอร์เย็นสบายเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือประหยัดไฟกว่าเดิม

 

 

 

หลีกเลี่ยงการนำของร้อน/ของชื้นเข้าห้อง

ปกติการนำของร้อนเข้ามาในห้อง จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้นในห้องหลายคนคงคิดไม่ถึงว่าการมี ต้นไม้ เสื้อผ้าเปียก ภาชนะใส่น้ำของเหลวในห้อง ก็ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ส่งผลต่อค่าไฟที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะหลักการการทำงานของแอร์ นอกจากจะใช้พลังงาน 30% ลดอุณหภูมิห้องแล้ว ยังใช้พลังงาน 70% กำจัดความชื้นให้อากาศให้ห้องแห้ง ดังนั้นการมีสิ่งที่ก่อความชื้นภายในห้อง ทำให้แอร์ต้องใช้พลังงานทำงานหนักเพื่อกำจัดความชื้นภายในห้อง การหลีกเลี่ยงไม่นำของชื้นและของร้อนเข้ามาในห้องจึงเป็นการช่วยแอร์ประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟได้อีกวิธีหนึ่ง

Cr. https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/tips-for-you/save-electricity-bill.html

Categories
Uncategorized

5 เทคนิคเปิดแอร์เย็นใจ ประหยัดค่าไฟช่วงหน้าร้อน

5 เทคนิคเปิดแอร์เย็นใจ ประหยัดค่าไฟช่วงหน้าร้อน

ย่างเข้าหน้าร้อนทุกปี แอร์กลายเป็นสิ่งขาดไม่ได้ ออกนอกห้องแอร์ทีไรร้อนหูดับตับไหม้ เหงื่อไหลไคลย้อยพาลให้อารมณ์หงุดหงิดไม่เป็นอันทำงานทำการ แต่จะเปิดแอร์ให้เย็นกายสบายใจก็กลัวต้องตกใจกับตัวเลขบิลค่าไฟที่พุ่งสูงตามอุณหภูมิ แนะนำแนวทางว่าจะเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดเงินค่าไฟในช่วงหน้าร้อนนี้

 

save-electricity-bill2
 

 

ล้างแอร์

วิธีแรกที่สุดเลยคือการล้างแอร์ เพราะเมื่อแอร์มีการใช้งานไปนานๆ จะมีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปในตัวแอร์ และเมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็น ทำงานหนัก กินไฟมากกว่าเดิม และถ้าฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อน้ำแอร์ก็จะทำให้แอร์มีน้ำหยด การล้างแอร์เบื้องต้นด้วยการทำความสะอาดแผ่นกรองหยาบก็สามารถช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้ดีขึ้น หรือจะให้ช่างแอร์มาล้างให้สะอาดเอี่ยมอ่องก็จะทำให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

 

 

ลองตั้งอุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเล็กน้อย

มีความเข้าใจว่าอุณหภูมิแอร์ 25 องศาคืออุณหภูมิที่ประหยัดไฟที่สุดซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเล็กน้อย ความจริงแล้วระดับอุณหภูมิ 25 องศาที่คือระดับอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกสบายที่สุด จึงมีการแนะนำให้ตั้งระดับอุณหภูมิแอร์ที่ 25 องศา แต่ถ้าใครลองปรับเพิ่มอุณหภูมิเป็น 26-27 องศาแล้วยังรู้สึกสบายตัวอยู่ แนะนำให้ปรับอุณหภูมิขึ้นเล็กน้อย แอร์ก็จะทำงานน้อยลง ช่วยให้ประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟ ถ้าตอนกลางวันอากาศร้อนไม่ไหวจริงๆ อาจจะลองปรับอุณหภูมิเฉพาะในเวลากลางคืนที่อากาศร้อนน้อยกว่า แล้วตั้งเวลาปิดแอร์ 1 ชั่วโมงก่อนตื่นนอน  แค่นี้ก็ช่วยประหยัดค่าไฟได้แล้ว

 

 

 

หลีกเลี่ยงใช้แอร์ในห้องพื้นที่เปิด

การเปิดแอร์ในห้องที่เปิดโล่งอย่างห้องโถง ที่มีทางขึ้นบันได ทางเดินไปห้องอื่นๆ ไม่มีประตูกั้น นอกจากแอร์ไม่ค่อยเย็นแล้ว ยังทำให้แอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติและค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงควรเปิดแอร์ในห้องที่เป็นพื้นที่ปิด หรือถ้าจำเป็นต้องใช้แอร์ในห้องโถงจริงๆ ก็ควรติดตั้งฉากกั้นพื้นที่แบบเปิดปิด กั้นทางขึ้นบันได และทางเดินไปห้องอื่นๆ รวมถึงปิดหน้าต่าง ม่านให้เรียบร้อย ซึ่งม่านก็ช่วยลดอุณหภูมิจากแสงดอาทิตย์ภายนอก แอร์ทำงานน้อยลง ประหยัดพลังงานและค่าไฟแล้ว

 

 

 

ใช้พัดลมช่วย

การเปิดพัดลมไล่ความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์จะช่วยลดความอุณหภูมิความร้อนภายในห้อง ทำให้ตอนเปิดแอร์ไม่ต้องทำงานหนักมาก ยิ่งถ้าเปิดพัดลมช่วยในระหว่างที่เปิดแอร์จะช่วยให้ความเย็นจากแอร์กระจายไปทั่วห้อง และถึงแม้จะปรับอุณหภูมิเพิ่มเป็น 26-27 องศา (ตามข้อ 2) การเปิดพัดลมช่วยจะทำให้แอร์เย็นสบายเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือประหยัดไฟกว่าเดิม

 

 

 

หลีกเลี่ยงการนำของร้อน/ของชื้นเข้าห้อง

ปกติการนำของร้อนเข้ามาในห้อง จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้นในห้องหลายคนคงคิดไม่ถึงว่าการมี ต้นไม้ เสื้อผ้าเปียก ภาชนะใส่น้ำของเหลวในห้อง ก็ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ส่งผลต่อค่าไฟที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะหลักการการทำงานของแอร์ นอกจากจะใช้พลังงาน 30% ลดอุณหภูมิห้องแล้ว ยังใช้พลังงาน 70% กำจัดความชื้นให้อากาศให้ห้องแห้ง ดังนั้นการมีสิ่งที่ก่อความชื้นภายในห้อง ทำให้แอร์ต้องใช้พลังงานทำงานหนักเพื่อกำจัดความชื้นภายในห้อง การหลีกเลี่ยงไม่นำของชื้นและของร้อนเข้ามาในห้องจึงเป็นการช่วยแอร์ประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟได้อีกวิธีหนึ่ง

Cr. https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/tips-for-you/save-electricity-bill.html