การจัดตั้งโรงงานนั้นจำเป็นที่จะต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยให้กับพนักงานผู้ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ด้วย ไม่เพียงแต่ความปลอดภัยทางด้านกายภาพอย่างมาตรการการใช้งานเครื่องจักร อุปกรณ์ และการจัดการวัตถุดิบ แต่ยังรวมไปถึงความปลอดภัยทางด้านสภาพแวดล้อมด้วยเช่นกัน โดยในเรื่องของอุณหภูมินั้นได้ถูกกล่าวถึงใน ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยในการประกอบกิจการโรงงานเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมในการทำงาน พ. ศ. 2546 และกฎกระทรวงเรื่องกำหนดมาตรฐานในการบริหาร และจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. 2549
โดยมีมาตรฐานเขียนไว้เกี่ยวกับอุณหภูมิในสภาวะการทำงานต่างๆ รวมถึงระดับแสงสว่าง และเสียงต้องอยู่ในเกณฑ์ หากทำตามไม่ได้ต้อง ประกาศเป็นพื้นที่อันตรายต่อสุขภาพ และตั้งกฎเกณฑ์การทำงานใหม่ รวมถึงมาตรการเกี่ยวกับการแต่งกายด้วย ซึ่งระดับที่กล่าวถึงก็จะสามารถแบ่งออกตามลักษณะงาน คือ
- งานเบา – หมายถึงงานที่มีการเผาผลาญพลังกายน้อยกว่า 200 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง ต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่า 34 องศาเซลเซียส
- งานหนักปานกลาง – หมายถึงงานที่มีการเผาผลาญพลังกายระหว่าง 200-350 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง ต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่า 32 องศาเซลเซียส
- งานหนัก – หมายถึงงานที่มีการเผาผลาญพลังกายมากกว่า 350 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง ขึ้นไป ต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส
ความสำคัญของ พัดลมดูดอากาศโรงงาน
นอกจากความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงานแล้ว พัดลมดูดอากาศยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่ช่วยให้สภาพแวดล้อมในโรงงานของคุณดีขึ้นอีกด้วย โดยข้อดีแต่ละข้อ ก็จะมีดังต่อไปนี้
- นำความร้อน และกลิ่นไม่พึงประสงค์ออก – กลิ่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงาน เพราะภายในโรงงานนอกเหนือจากจะมีอุณหภูมิสูงจากเครื่องจักร และการทำงานแล้ว กลิ่นก็อาจส่งผลต่ออารมณ์ และความรู้สึกตอนทำงานของพนักงาน รวมทั้งความร้อนอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร อาจก่อความเสียหาย และลดอายุการใช้งานลงได้
- เพิ่มการหมุนเวียนของอากาศ – อากาศในโรงงานมักปนเปื้อนไปด้วยมลพิษ ฝุ่น และสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต การหมุนเวียนอากาศสามารถกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกไป และแทนที่ด้วยอากาศบริสุทธิ์ภายนอกได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สุขภาพของพนักงงานปลอดภัยแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ เช่น แก๊สระเบิด หรือเพลิงไหม้จากการสะสมของสารอันตรายได้อีกด้วย
- ลดค่าใช้จ่ายในโรงงาน – หลายคนอาจสงสัยว่า การติดตั้งพัดลมจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างไร ซึ่งตอบได้เลยว่า สามารถลดได้หลายส่วนไม่ว่าจะเป็น ค่ารักษาพยาบาลของพนักงานที่เกิดจากการทำงาน ค่าพลังงานที่ใช้ในการปรับอากาศ ค่าความเสียหายจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ลดค่าบำรุงรักษา และทำความสะอาดพื้นที่ และเครื่องจักร ซึ่งจะยิ่งคุ้มค่าเมื่อติดตั้ง และคำนวณผลลัพธ์เหล่านี้ในระยะยาว
ควรเลือก พัดลมดูดอากาศโรงงาน อย่างไร?
หลังจากทราบข้อดีกันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนอาจยังมีข้อสงสัยว่าแล้ว พัดลมดูดอากาศโรงงานในท้องตลาดนั้นมีตัวเลือกให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ขนาดใบพัด วัสดุ รอบการหมุน ฯลฯ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเลือกซื้อตัวไหน โดยวิธีการเลือกนั้นก็จะมีปัจจัยให้ตัดสินใจไม่กี่ปัจจัย ดังนี้
- ก่อนอื่นต้องดูที่ จุดประสงค์การใช้งาน ว่าต้องการติดตั้งเพื่อแก้ไขปัญหาอะไร มีขนาดพื้นที่เท่าไหร่ ต้องการระบายมลพิษในปริมาณเท่าใด เพื่อเป็นหนึ่งในลักษณะที่สำคัญในการเลือกรุ่น และประเภทของพัดลมระบายอากาศในขั้นตอนถัดไป
- เลือกประเภทของพัดลมระบายอากาศให้เหมาะสม ในปัจจุบันมีตัวเลือกพัดลมให้เลือกมากมาย เช่นรุ่นที่มีการเปิดโล่งแบบธรรมดา รุ่นที่มีกริลเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอม หรือรุ่นที่ใช้ลมธรรมชาติ ไม่ใช้ไฟฟ้าเป็นต้น
- คำนวณพื้นที่ และเลือกรุ่นที่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยในแต่ละรุ่นก็จะบอกปริมาณการระบายอากาศ/ชั่วโมง เพื่อให้ทราบได้ว่าพัดลมตัวหนึ่งจะเหมาะกับพื้นที่ขนาดเท่าไหร่
- ปัจจัยอื่นๆ เช่น เสียงของพัดลม มาตรฐานสินค้า ลักษณะรูปลักษณ์ ยี่ห้อ และราคา ทั้งหมดนี้จะเป็นตัวเลือกด่านสุดท้ายที่จะนำคุณไปสู่พัดลมที่เหมาะสม และถูกต้องกับโรงงานของคุณมากที่สุด
หน้าที่หลักของ พัดลมดูดอากาศโรงงาน ขนาดใหญ่
สำหรับหน้าที่หลักของพัดลมดูดอากาศขนาดโรงงานอุตสาหกรรมนั้น เราจะสามารถเห็นการใช้งานได้ทั่วไปในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โกดังเก็บสินค้า หรือฟาร์มปศุสัตว์ โดยเฉพาะกับพื้นที่ที่มีการออกแบบให้เป็นระบบปิด และถ่ายเทอากาศได้ไม่สะดวก พัดลมเหล่านี้จะทำการดูดนำเอาอากาศภายในออกสู่ภายนอก และแทนที่ด้วยอากาศชุดใหม่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า รวมถึงอากาศเหล่านี้จะถูกกรองผ่านตัวกรอง ทำให้มีความบริสุทธิ์ และปลอดภัย
เพราะฉะนั้นเมื่อเปรียบเทียบอากาศภายในกับภายนอกเมื่อใช้พัดลมดูดอากาศแล้ว จะมีอุณหภูมิแตกต่างกันระหว่าง 4-15 องศา ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมภายนอก และปัจจัยอื่นๆ ตามฤดูกาล โดยในวันนี้เราได้นำเอาพัดลมดูดอากาศในระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง และใช้งานได้ดีกับหลายๆ พื้นที่มาฝากทุกท่านกัน
- รุ่นบานเกล็ด-ตะแกรงหลัง พัดลมฟาร์มขนาดใหญ่ มีปริมาณการระบายอากาศที่ 8,000 – 44,500 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง มีขนาดให้เลือกใช้หลายขนาด ใบพัดทำจากอลูมิเนียมคุณภาพดี แข็งแรง และเสียงเงียบเมื่อเปิดใช้งาน
- รุ่นตะแกรงหน้า-หลัง เป็นรุ่นที่มีการติดตั้งตะแกรงทั้งด้านหน้า และด้านหลังของใบพัด ช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ใบพัด ติดตั้งง่าย เหมาะกับโรงงาน ฟาร์มเกษตร หรือโกดังสินค้า ที่มีฝุ่นละอองในพื้นที่เยอะ หรือกระบวนการผลิตที่มีฝุ่นมาก